สื่อนอกชี้ EM Ball อาจช่วยบำบัดน้ำเน่าไม่ได้

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          สื่อนอกระบุ EM Ball อาจช่วยบำบัดน้ำเน่าไม่ได้ ชี้ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าได้ผลจริง

          ในขณะที่ประชาชนคนไทยกำลังเร่งปั้นอีเอ็มบอล (EM Ball) หรือลูกบอลจุลินทรีย์ เพื่อส่งต่อไปช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมขังที่เน่าเสียให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม อีกด้านหนึ่ง สื่อมวลชนในต่างประเทศ กลับมาออกมาระบุว่า อีเอ็มบอล นั้น อาจจะไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาน้ำเน่าเสียดังที่คนไทยคาดหวังไว้ได้จริง

          โดยหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานว่า ขณะนี้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในกรุงเทพมหานครกำลังต้องการอีเอ็มบอลเป็นอย่างมาก โดยหวังที่จะนำเจ้าอีเอ็มบอลนี้ ไปช่วยบำบัดน้ำเน่าที่ท่วมขังรอบบ้าน ตามที่มีคนเสนอให้นำลูกบอลจุลินทรีย์ชนิดนี้ออกมาใช้ แต่สิ่งนี้ก็ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยเช่นกันว่า อีเอ็มบอลใช้ได้จริงหรือ? เพราะจนถึงบัดนี้ ยังไม่มีหน่วยงานใด แม้กระทั่งองค์การสาธารณสุขระดับโลกออกมายืนยันถึงประสิทธิภาพของอีเอ็มบอลในการบำบัดน้ำเสียเลย

          ด้าน ดร.มัวรีน เบอร์มิงแฮม ผู้แทนขององค์การอนามัยโลก ประจำประเทศไทย ออกมาแสดงความเห็นว่า การใช้อีเอ็มบอลบำบัดน้ำเสียที่ท่วมเป็นวงกว้างเช่นนี้ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่สูงมาก เพราะต้องใช้อีเอ็มบอลจำนวนมหาศาลตามไปด้วย โดยที่ยังไม่แน่ใจว่าจะได้รับประโยชน์จริงหรือไม่ นอกจากนี้ ยังไม่มีการทดลองภายใต้การควบคุม เพื่อยืนยันว่า อีเอ็มบอลช่วยบำบัดน้ำท่วมที่เน่าเสียได้จริง

          สำหรับกรณีที่มีผู้อ้างว่า อีเอ็มบอลเคยประสบความสำเร็จในการบำบัดน้ำเสียเมื่อครั้งเกิดเหตุการณ์สึนามิ ในพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งเหตุการณ์พายุเฮอร์ริเคนแคทรินานั้น ดร.มัวรีน ระบุว่า จริง ๆ แล้ว มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ที่จะยืนยันว่า อีเอ็มบอลจะใช้ได้ผลกับสถานการณ์อุทกภัยในประเทศไทย

          ขณะที่ผู้คนในโลกไซเบอร์ในต่างประเทศซึ่งติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในประเทศไทย ก็ได้จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เรื่องอีเอ็มบอลตามเว็บบล็อกต่าง ๆ เช่นกัน อย่างเช่น เว็บ "นิวแมนเดลา" เว็บบล็อกชื่อดังของมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย มีผู้ตั้งคำถามว่า การที่คนจำนวนมากพยายามปั้นอีเอ็มบอล เป็นความต้องการช่วยเหลืออย่างแท้จริง หรือทำเพื่อความบันเทิงใจของคนที่ไม่ได้รับความเสียหายจากเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ พร้อมกับยกเหตุผลของนักวิชาการของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เคยออกมาระบุว่า อีเอ็มบอลจะทำให้น้ำมีคุณภาพแย่ลงไปอีก เพราะจะยิ่งไปลดออกซิเจนในน้ำ มาประกอบการตั้งข้อสังเกตครั้งนี้

          อย่างไรก็ตาม ยังมีชาวเน็ตหลายคนสนับสนุนให้ใช้อีเอ็มบอลต่อไป โดยบางส่วนยอมรับว่า อีเอ็มบอลอาจจะช่วยอะไรไม่ได้มากก็จริง แต่ก็เป็นหนึ่งในความพยายามที่จะช่วยแก้ไขปัญหาน้ำเน่าที่ขยายตัวเป็นวงกว้าง และแสดงให้เห็นถึงความช่วยเหลือกันระหว่างชุมชนกับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม




อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




[7 พฤศจิกายน] ทส. โต้ อีเอ็มบอลใช้การได้ ทดลองกว่า 20 ปีแล้ว

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก youtube.com โพสต์โดย poramateminsiri

          กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ออกมาโต้นักวิชาการจุฬาฯ อีเอ็มบอลใช้การได้จริง แจงไม่ควรพูดตอนนี้ ทำให้ประชาชนสับสน

          สืบเนื่องจากกรณีที่ นายธงชัย พรรณสวัสดิ์ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ภาควิชาวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงอีเอ็มบอลว่าไม่ช่วยให้น้ำหายเน่าเสียได้ เนื่องจากองค์ประกอบในอีเอ็มนั้นคือสารอินทรีย์ การเอาไปใส่ในน้ำจะทำให้ยิ่งเน่าเสียมากยิ่งขึ้น

          ล่า สุดวานนี้ (5 พฤศจิกายน) นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์โดยยืนยันว่า อีเอ็มที่ ทส.โดยกรมทรัพยากรน้ำ และกรมควบคุมมลพิษใช้อยู่ เป็นวัสดุที่มีผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นสูตรของกรมพัฒนาที่ดิน (พด.6) ใช้มาแล้วกว่า 20 ปี มีห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ (แล็ป) และมีงานวิจัยรับรองที่ชัดเจน ซึ่งที่ผ่านมาก่อนที่กรมควบคุมมลพิษจะนำไปใช้ในแหล่งน้ำเสียที่ใดก็จะต้องทำ งานอย่างมีขั้นตอน ได้แก่

          1. ไปเก็บตัวอย่างน้ำ เพื่อใช้ในการวัดปริมาณอ๊อกซิเจนที่ละลายอยู่ในน้ำ
          2. นำอีเอ็ม บอลล์ หรืออีเอ็ม น้ำ นำไปใส่ตามปริมาณน้ำที่คำนวณไว้
          3. อีกประมาณ 3-4 วันก็จะไปเก็บตัวอย่างน้ำในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อวัดปริมาณอ๊อกซิเจนที่ละลายในน้ำอีกครั้ง ซึ่งพบว่าปริมาณอ๊อกซิเจนเพิ่มขึ้น แสดงว่าคุณภาพน้ำดีขึ้น

          พร้อมกันนี้นายโชติ ยังกล่าวรับรองด้วยว่า ไม่ใช่ป้าเชงแน่นอน เพราะว่าคนที่ทำคือนักวิทยาศาสตร์เหมือนกัน เรียนก็เรียนมาเท่ากัน ก่อนจะมาพูดอะไรคิดว่าน่าจะมีการถกเถียงในเชิงวิชาการกันก่อน แต่ไม่ควรออกมาพูดอย่างนี้ ในช่วงนี้เวลานี้ เพราะจะทำให้ประชาชนเกิดความสับสน อย่างไรก็ตาม ทส.จะแถลงเรื่องนี้อย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยจะนำนักวิทยาศาสตร์ที่ได้ไปร่ำเรียนมาจากเมืองนอก ซึ่งทำงานด้านนี้โดยตรงมาชี้แจงให้ประชาชนฟังอีกครั้ง


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




[5 พฤศจิกายน] ผู้ผลิตโต้นักวิชาการจุฬาฯ ไม่รู้จัก EM Ball จริง

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          หลัง จากที่กลุ่มอาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกมาตั้งข้อสงสัยถึงประสิทธิภาพของ EM Ball ลูกบอลมหัศจรรย์ ว่าสามารถแก้ปัญหาน้ำเน่าเสียได้จริงหรือไม่ เนื่องจากแม้ว่า EM Ball เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีความสามารถเฉพาะในการย่อยสลายสารอินทรีย์ก็จริง แต่ปัญหาน้ำเน่านี้เกิดจากการที่สารอินทรีย์ในน้ำมีปริมาณสูง เมื่อเกิดการย่อยสลายโดยจุลินทรีย์จึงส่งผลให้ออกซิเจนในน้ำซึ่งมีอยู่อย่าง จำกัดอยู่แล้ว กลับมีปริมาณลดลงไปอีก และในที่สุดอาจก่อให้เกิดสภาวะไร้อากาศซึ่งส่งกลิ่นเหม็น และส่งผลเสียต่อปลาและสัตว์น้ำต่าง ๆ

          นอกจากนี้ จุลินทรีย์ใน EM ไม่มีความสามารถในการสร้างออกซิเจนแต่อย่างใด อีกทั้ง องค์ประกอบของ EM ball ก็เป็นสารอินทรีย์เช่นกัน ทั้งกากน้ำตาลและรำข้าว ซึ่งหากโยน EM ball ลงในแหล่งน้ำจึงเปรียบเสมือนการเพิ่มปริมาณสารอินทรีย์ให้กับแหล่งน้ำ ทำให้น้ำต้องใช้ออกซิเจนในการย่อยสลายเพิ่มมากขึ้นไปอีก ดังนั้น กล่าวได้ว่าการเติม EM นอกจากจะไม่ช่วยสร้างออกซิเจนแล้ว ยังส่งผลทำให้เกิดปัญหาน้ำเน่าเสียที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิมจากการลดลงของ ปริมาณออกซิเจนในน้ำ รวมถึงมีปริมาณสารอินทรีย์เพิ่มสูงขึ้นอีกด้วยนั้น

           ล่าสุดวันที่ 5 พฤศจิกายน นายสนัส หนูสวี รองประธานมูลนิธิเกษตรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้ริเริ่มการผลิตอีเอ็ม บอลล์ อย่างจริงจังคนแรกของภาคใต้ ออกมากล่าวว่า อยากถามว่า ศ.ดร. ธงชัย พรรณสวัสดิ์ ประธานสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย และ กลุ่มอาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ว่า EM Ball อาจไม่ช่วยบำบัดน้ำเสียจากน้ำท่วม รู้จัก EM Ball แค่ไหน ขณะนี้เกิดน้ำท่วมน้ำเน่าเหม็นชาวบ้านเดือนร้อนไปทั่ว และต้องการให้มีการบำบัดน้ำที่เสียให้ดีขึ้น การออกมาแสดงความคิดเห็นดังกล่าวไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น แถมยังจะทำให้น้ำเน่าเสียนานกว่าเดิม
 
           ทั้งนี้ นายมนัส เผยอีกว่า น้ำที่เน่าเสียจากน้ำท่วมถือว่าเล็กน้อย เมื่อเทียบกับน้ำเสียจากบ่อขยะ แม้ว่าการโยน EM Ball บำบัดน้ำเสียจากน้ำท่วมอาจจะไม่ชัด แต่ขอให้นักวิชาการไปตักน้ำเสียในคลองไหนก็ได้ที่ กทม.มาพิสูจน์จะได้รู้กัน

          ขณะ ที่ นายประวิทย์ ภูมิระวิ ผู้รับผิดชอบการผลิต EM Ball ศูนย์การเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชา โครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริ ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร กล่าวว่า ไม่ต้องเสียเวลาพิสูจน์ ถ้าส้วมเหม็น ก็ลองทุบใส่ดู 2-3 วันกลิ่นหายไปก็หมายความว่าใช้ได้ ถ้าน้ำเสียมีกลิ่น โยนลงไปดู น้ำดีขึ้นกลิ่นหายไปก็แสดงว่าใช้ได้




อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก